หน้าเว็บ

Clashot คืออะไร.....แอพถ่ายรูปขายภาพออนไลน์ $0.99 มาดูกัน

Clashot แอพถ่ายรูปขายภาพออนไลน์ $0.99

Clashot คืออะไร ? ผมพึ่งเห็นโฆษณาใน facebook เกี่ยวกับแอพขายรูปภาพที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือชื่อว่า Clashot เลยคลิกเข้าไปอ่านรายละเอียดต่อใน Google Play อ่านไปอ่านมาก็รู้ว่ามันคือแอพของ Depositphoto เว็บขายรูปภาพชื่อดัง ก่อนหน้านี้ผมเคยนำเสนอแอพที่ชื่อว่า 123RF-On-The-Go เป็นแอพขายภาพออนไลน์ไปแล้วเช่นกัน

สำหรับแอพ Clashot นั้นสมัครง่ายมาก เพียงแค่ login ด้วย facebook google+ หรือ twitter โดยไม่จำเป็นต้องส่งภาพถ่ายบัตรประชาชน จากนั้นสามารถเลือกภาพที่ถ่ายเอาไว้แล้ว หรือจะกดที่ Camera ในแอพเพื่อถ่ายภาพทันทีเลยก็ได้ นอกจากนี้ยังมีระบบชวนเพื่อนใน facebook ระบบติดตามคนที่เราชอบอีกด้วย แนะนำแอพตกแต่งภาพ Aviary ข้อดีของแอพนี้คือหลังจาก Save แล้วรูปที่ได้จะความละเอียดเท่าเดิม ไม่ถูกลดขนาดลงเหมือนแอพแต่งภาพตัวอื่น ๆ จะแต่งภาพเพื่อขายไม่ใช่เพื่ออัพโชว์เพื่อนในเฟส ดังนั้นภาพควรจะมีขนาดใหญ่

เมื่อทำการเลือกภาพที่ต้องการจะส่งไปขายแล้ว จะต้องใส่คำอธิบายลงไปด้วยเพื่อให้ง่ายต่อการค้นหา ในส่วนนี้ก็ใส่เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ถ้าอยากจะขายคนต่างชาติ คำอธิบายควรจะยาวและมีคำสำคัญที่ตรงกับภาพถ่ายหลาย ๆ คำ เพื่อที่เวลาคนค้นหาแล้วจะได้เจอภาพของเรา

นี่คือตัวอย่างภาพที่วางขายกันอยู่ ผมลองกดซื้อดูแล้วราคาก็ไม่แพงเลยครับ เพียงแค่ $0.99 เท่านั้นเอง คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณรูปล่ะ 32 บาท เพราะฉะนั้นคิดว่าน่าจะขายได้ไม่ยากนัก ส่วนการรับเงินนั้นเราจะได้ $0.44 ต่อภาพ

ถ้าภาพได้รับ Like จากผู้ที่เป็น Expert Clashot เราจะได้เงิน $0.1 การเบิกเงินขั้นต่ำจะอยู่ที่ $50 แต่ล่าสุดปรับลดลงเหลือ $3

จ่ายทาง PayPal หรือ Moneybooker ภายใน 7 วันหลังจากที่เรากดเบิกเงิน สำหรับคนที่กำลังมองหามือถือดี ๆ มีส่วนลด ลองแวะเข้าไปเลือกซื้อได้ที่ LAZADA เว็บนี้เชื่อถือได้ ผมซื้อสินค้ามาแล้วหลายครั้งไม่เคยมีปัญหา ถ้าต้องการคู่ปองส่วนลดก็ลองไปดูที่เว็บนี้ ipricethailand เป็นเว็บรวมข่าวสารเกี่ยวกับคู่ปองส่วนลด lazada และอื่น ๆ

สรุปว่าแอพนี้น่าสนใจมากครับ ผมคิดว่าน่าจะไปได้ไกลเริ่มมีคนไทยดาวโหลดมาใช้กันแล้ว เพราะว่าสมัครง่าย การส่งภาพก็ไม่ต้องใส่ป้ายกำกับ ใส่เพียงแค่คำอธิบายเท่านั้น แต่อย่าลืมว่าในคำอธิบายควรมีคำสำคัญที่คิดว่าคนจะใช้คำนี้ค้นหาและต้องเกี่ยวข้องกับภาพถ่ายของเราด้วย

ผมแนะนำว่าให้เข้าไปแก้ไขคำอธิบาย ชื่อภาพ และ ป้ายกำกับที่เว็บของ Clashot เลยครับ ในกรณีที่อยากจะใส่เพิ่มเติมนะ เพราะในแอพจะมีแค่ให้ใส่คำอธิบายภาพเท่านั้น ปัจจุบันไม่สามารถแก้ไขข้อมูลของภาพบนเว็บ Clashot ได้อีกแล้ว ซึ่งคำอธิบายนี้จะเป็นชื่อภาพด้วย ผมคิดว่าคงเพราะแอพอาจจะยังไม่สมบูรณ์เท่าไร และหลักการใส่คำอธิบายภาพในแอพให้ใส่เป็นคำแล้วเว้นวรรค ถ้าใส่ติดกันจะค้นหาแล้วไม่เจอ คงไม่มีใครชอบพิมพ์ประโยคยาว ๆ เวลาค้นหา สรุปให้ใส่แบบ Tag หรือป้ายกำกับนะครับ โดยไม่ต้องใส่เครื่องหมาย , คั่นในแต่ละคำ ไม่แน่ในอนาคตแอพ Clashot อาจจะแทนที่ Instagram ก็ได้



Credit: conomar.blogspot.com

iWatch อาจมีให้เลือกถึง 3 โมเดล 2 ขนาดหน้าจอ



[16-กรกฏาคม-2557] อัพเดทข่าว iWatch นาฬิกาอัจฉริยะจาก แอปเปิล โดยทีมงาน techmoblog ในวันนี้ เมื่อทางเว็บไซต์ Economic Daily เผยว่า iWatch จะมีให้เลือกถึง 3 โมเดลด้วยกันครับ
โดย iWatch จะแบ่งเป็น 3 รุ่น 2 ขนาดหน้าจอ ได้แก่ หน้าจอ 1.6 นิ้ว และหน้าจอ 1.8 นิ้ว ซึ่งเป็นรุ่นปกติ ส่วนอีกรุ่น เป็น iWatch หน้าจอ 1.8 นิ้ว ซึ่งกระจกหน้าจอทำมาจาก ซัฟไฟร์ ที่มีความแข็งแรงทนทานสูง แน่นอนว่า ข้อมูลดังกล่าว เป็นเพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นครับ - gsmarena.com


iWatch รัน iOS 8 เน้นฟีเจอร์ด้านสุขภาพ และฟิตเนส เป็นหลัก
เว็บไซต์ 9to5mac ได้รายงาน ข่าวลือ เกี่ยวกับ iOS 8 ที่มีกำหนดการเปิดตัวในปีนี้ว่า จะเน้นฟีเจอร์ด้านสุขภาพ และฟิตเนสเป็นหลักครับ ซึ่งจะมี แอพพลิเคชั่น ที่มีชื่อว่า Healthbook ในการเก็บสถิติเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ความเร็วในการเดิน, จำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญไป, จำนวนก้าวเดิน, อัตราการเต้นของหัวใจ หรือระดับน้ำตาลในเลือด เป็นต้น
นอกจากนี้ Healthbook จะมีการเชื่อมต่อกับ แอพพลิเคชั่น Reminders เพื่อแจ้งเตือนเวลาการทานยาอีกด้วย ซึ่งถือว่า ครบเครื่องด้านสุขภาพเลยนั่นเอง
และจากคุณสมบัติของ iOS 8 ในข้างต้น ทำให้คาดว่า iWatch กำลังถูกพัฒนาอยู่ในตอนนี้ เพื่อรองรับการใช้งาน แอพพลิเคชั่น Healthbook นั่นเอง นอกจากนี้ iWatch อาจจะมีเซ็นเซอร์ วัดค่าต่างๆ ของร่างกายอีกด้วย
ส่วน iOS 8 คาดว่าจะใช้โค้ดเนม Okemo ซึ่งเป็นชื่อสกีรีสอร์ต ใน Vermont สหรัฐอเมริกาครับ - 9to5mac.com



iWatch สามารถคาดเดาความเสี่ยงของ โรคหัวใจล้มเหลว ได้

iWatch จะสามารถคาดเดา ความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจล้มเหลวได้ โดยอาศัยการฟังการหมุนเวียนของเลือด ผ่านหลอดเลือดแดงครับ
โดยเทคโนโลยีดังกล่าว แอปเปิล ได้ร่วมกับ Tomlinson Holman บริษัทผู้ผลิตเครื่องมือที่เกี่ยวข้องกับด้านนี้โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจาก iWatch จะมาพร้อมกับ iOS 8 แล้ว จะเน้นการใช้งานด้านสุขภาพเป็นหลัก และเชื่อว่า เทคโนโลยีดังกล่าว จะทำให้ iWatch กลายเป็น Gadget ที่โดดเด่นในช่วงปี 2014-2015 ได้
นอกจากความสามารถในเรื่องของ การคาดเดาความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจแล้ว iWatch ยังสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจ, ปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ, ความดันเลือด รวมไปถึงปริมาณกลูโคสในเลือดอีกด้วย - phonearena.com



iWatch รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
เว็บไซต์ C Technology ของจีน ได้รายงานว่า iWatch จะเปิดตัวในเดือนตุลาคม ปี 2014 ครับ ซึ่ง Apple ได้เริ่มทดสอบ iWatch ตัวต้นแบบทั้งหมด 2 รุ่นแล้วในตอนนี้ และรองรับการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายอีกด้วย
อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวเผยว่า Apple ยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า หน้าจอของ iWatch จะมีขนาดอยู่ที่เท่าใด ส่วนแบตเตอรี่ที่ใช้ทดสอบกับตัวต้นแบบนั้น มีความจุอยู่ที่ 100 mAh เท่านั้น ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้ว ถือว่า มีความจุน้อยเกินไปครับ เพราะอย่าง Samsung Galaxy Gear มีขนาดของแบตเตอรี่ที่ 315 mAh ยังเจอปัญหาเรื่องแบตฯ ไม่อึดเช่นกัน
โดยทาง Apple เอง ก็กำลังแก้ปัญหาเรื่อง แบตเตอรี่บน iWatch อยู่ในตอนนี้ครับ ซึ่ง iWatch รุ่นต้นแบบ แบตเตอรี่อยู่ได้นานแค่ 1-2 วันเท่านั้น และทาง Apple เอง ก็กำลังหาวิธีที่จะทำให้ แบตอยู่ได้นาน 4-5 วัน ทำให้เกิดความคิดเรื่องที่จะนำ การชาร์จแบตเตอรี่ไร้สาย เข้ามาใช้กับ iWatch ด้วย อย่างไรก็ดี เรื่องความจุแบตเตอรี่บน iWatch อาจจะไม่ใช่ตัวเลข 100 mAh ครับ เนื่องจากเป็นแค่รุ่นต้นแบบ ซึ่งรุ่นวางจำหน่ายจริง น่าจะมีความเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ครับ - macrumors.com 
iWatch แบ่งเป็น 2 รุ่น สำหรับผู้หญิง และ ผู้ชาย
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทาง David Hsieh นักวิเคราะห์จาก NPD DisplaySearch ได้ออกมาเผยว่า Apple กำลังมองหาแหล่งผลิตหน้าจอขนาด 1.3 นิ้ว และ 1.7 นิ้ว ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล ล่าสุด สำนักข่าว Korea Hereld ได้รายงานในทำนองเดียวกันว่า Apple จะพัฒนา iWatch 2 ขนาดหน้าจอครับ นั่นก็คือ 1.3 นิ้ว สำหรับผู้หญิง และ 1.7 นิ้ว สำหรับผู้ชาย โดยใช้หน้าจอแบบ OLED
ส่วน iWatch จะมีหน้าจอโค้งงอด้วยหรือไม่ แหล่งข่าวเผยว่า ยังไม่มีการยืนยันในตอนนี้ครับ แต่อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ Apple น่าจะโชว์เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้เหนือกว่า Samsung Galaxy Gear
สำหรับกำหนดการเปิดตัว iWatch คาดว่า น่าจะเป็นปีหน้าครับ - macrumors.com



Apple จดเครื่องหมายการค้า iWatch ในญี่ปุ่น
เว็บไซต์ Bloomberg ได้รายงานว่า Apple ได้ยื่นจดเครื่องหมายการค้า iWatch ในประเทศญี่ปุ่น แล้วครับ ซึ่งน่าจะเป็นการยืนยันได้ว่า SmartWatch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะจาก Apple ในชื่อ iWatch น่าจะมีเค้าความจริง และใกล้จะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ด้วย
โดยก่อนหน้านั้น เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา Apple ก็ยื่นจดเครื่องหมายการค้า ในชื่อ iWatch ที่ประเทศรัสเซียมาแล้วเช่นกันครับ - macrumors.com



iWatch เปิดตัวปี 2014
Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังจาก KGI ที่เคยมีประวัติการทำนายผลิตภัณฑ์สินค้าของ Apple ได้อย่างแม่นยำ ได้เผยว่า นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ หรือ iWatch นั้น จะยังไม่เปิดตัวจนกว่าจะถึงปี 2014 ครับ ซึ่ง Ming-Chi Kuo เชื่อว่า กระบวนการผลิตจะเริ่มต้นในช่วงครึ่งปีหลัง ของปี 2014
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ iWatch ต้องเปิดตัวล่าช้าออกไป เป็นเพราะว่า Apple ยังไม่สามารถเข้าไปพัฒนา iWatch บน iOS ได้อย่างเต็มตัวในปีนี้ เนื่องจากต้องโฟกัสให้กับ iOS เวอร์ชั่นใหม่ บน iPhone และ iPad เสียก่อน
นอกจากนี้ Ming-Chi Kuo เชื่อว่า สาเหตุที่ Apple เลือกที่จะพัฒนาอุปกรณ์ประเภทสวมใส่บนข้อมือ อย่าง iWatch แทนที่จะเป็นอุปกรณ์จำพวกแว่นตา (เหมือน Google Glass) เป็นเพราะ แว่นตา ไม่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากต้นทุน และพฤติกรรมการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น Google Glass ผลิตได้แค่ 40,000 ชิ้น ในช่วงไตรมาส 2 เท่านั้น
สำหรับจุดเด่นของ iWatch นั้น คงจะเป็นเรื่องของการทำงานร่วมกับอุปกรณ์ iOS อื่นๆ ครับ ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนพวกข้อความ สายเรียกเข้า รวมไปถึง social network ต่างๆ และด้านสุขภาพ เช่น การตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ เป็นต้นครับ - 9to5mac.com

iPhone 6 ยังไม่ทันเปิดตัว แต่สั่งจองเวอร์ชั่นทองคำ 24K ประดับเพชรกันได้แล้ว ในราคา 270,000 บาท





จนถึงวันนี้ Apple เองยังไม่ได้มีข้อมูลหรือประกาศเกี่ยวกับการเปิดตัวและวางขาย iPhone 6 เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สื่อต่างๆ ก็ต่างพากันคาดเดาจากหลักฐานและภาพหลุดที่มีออกมากันมากมายเต็มโลกออนไลน์ไปหมด รวมถึงบริษัทที่เปลี่ยนมือถือของคุณให้เป็นเครื่องประดับอันเลอค่าอย่าง BRIKK ที่อยู่ดีๆ ก็เปิดตัว iPhone 6 รุ่นสั่งทำพิเศษถึง 14 รุ่นด้วยกัน ในชื่อ The Lux iPhone 6 โดยรุ่นที่ราคาแพงสุดนั้นอยู่ที่ 8,395 USD หรือราวๆ 270,000 บาท
สำหรับ The Lux iPhone 6 นั้นมีวัสดุให้เลือก 3 ชนิดด้วยกัน นั่นก็คือทองคำ 24K, ทองคำ 24K สีชมพู (Pink Gold) และทองคำขาวบริสุทธิ์ (Pure Platinum) นอกจากนั้นยังสามารถเลือกประดับโลโก้ Apple ด้านหลังด้วยเพชรรวมมูลค่ากว่า 1 กะรัต โดยมีราคาตั้งต้นที่ 4,495 USD และแพงสุดอยู่ที่ 8,395 USD โดยต้องวางเงินมัดจำ 500 USD ล่วงหน้า
โดย iPhone 6 รุ่นที่ถูกนำมาผลิตเป็นพิเศษนั้นจะเป็นรุ่นความจุ 128GB หน้าจอ 4.7 นิ้ว และผู้ที่สั่งจองจะได้รับเครื่องหลังจากiPhone 6 เริ่มวางจำหน่ายราว 3-4 สัปดาห์